Sustainable Luxury In Maldives 

ด้วยอุณหภูมิ และ คลื่นความร้อนที่สูงขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง ครอบคลุมทุกทวีปทั่วโลกในปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าโลกของเรานั้น กำลังเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคภาวะโลกเดือดอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งเราทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการช่วยให้สถานการณ์นี้เบาบางลง โดยสิ่งสำคัญของการช่วยเหลือหลักๆนั้นคือ การลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศ โดยสิ่งนี้จะมีความสำคัญเป็นอย่างมากกว่าที่เคย เพื่อดำรงค์ไว้ให้โลกมีที่เราอาศัยอยู่นี้มีสุขภาพที่ดีขึ้นและสามารถส่งต่อให้ไว้สำหรับคนรุ่นหลังต่อไป

ในฐานะผู้กระกอบการธุรกิจการท่องเที่ยวที่ได้อาศัยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามทางธรรมชาติเพื่อประกอบอาชีพ และ หมวกอีกใบของพวกเราก็คือนักเดินทางท่องเที่ยว เราจึงจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม และ การดำเนินชีวิตของเราส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และในเวลาเดียวกัน องค์กรต่างๆ และผู้ประกอบการธุรกิจทุกๆธุรกิจ จะต้องให้ความสนใจและเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้ด้วย

ซึ่งในมัลดีฟส์ ประเทศที่มีทรัพยากรทางธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์  ความยั่งยืนจึงถือเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอาจที่รุนแรงส่งผลร้ายแรงต่อแนวปะการังที่ได้ชื่อว่าเป็นพื้นที่ที่มีความเปราะบางทางด้านนิเวศน์วิทยามากที่สุดในโลก

ด้วยเหตุนี้ รีสอร์ทหลายแห่งในมัลดีฟส์จึงเร่งดำเนินกิจการในก้าวที่สำคัญสู่อนาคตที่ยั่งยืน โดยกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การลดขยะให้เหลือน้อยที่สุด โดยใช้แนวทางปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และขณะเดียวกันที่ลดการปล่อยและทำลายแล้ว ยังทำงานอีกด้านหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือเพื่อฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม กิจกรรมเหล่านี้กำลังกลายเป็นต้นแบบของธุรกิจการให้บริการอันเป็นตัวอย่างให้ร่วมกันปฏิบัติตาม

ตัดภาพกลับมายังฝั่งของนักท่องเที่ยว  เราสามารถที่จะช่วยอะไรกับสถานการณ์นี้ได้บ้าง 

ใช่เลยครับ การเริ่มต้นที่ง่ายที่สุด คือการเลือกวางแผนท่องเที่ยว สนับสนุนในรีสอร์ทที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นี่เป็นหนึ่งในแนวทางการท่องเที่ยวสีเขียวที่จะเป็นพลังเล็กๆในการสนับสนุนกิจการและกิจกรรมเชิงบวกนี้ได้อย่างยั่งยืน

วันนี้ทีมงานมีรีสอร์ทที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่อยากจะแนะนำเพื่อนๆ 5 รีสอร์ทที่เป็น Sustainable Luxury Resort ในมัลดีฟส์ที่ดำเนินกิจกรรมที่กล่าวมาข้างต้นอย่างจริงจัง หากมีรีสอร์ทไหนที่ถูกใจเพื่อนๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทีมงานของพวกเราได้ตลอดเลยนะครับ ทีมงานเราพร้อมให้คำปรึกษาแนะนำวางแผนท่องเที่ยวมัลดีฟส์กับเพื่อนๆทุกท่านอย่างดีที่สุดครับ  

 

Soneva  Jani

เมื่อเพื่อนๆวางแผนการเข้าพักที่ Soneva Jani พวกเราการันตีว่าเพื่อนๆจะได้รับประสบการณ์การเดินทางที่ดีที่สุด ตั้งแต่การนั่งรถต้อนรับที่สนามบิน จนไปถึงประสบการณ์การนั่งเครื่องบินน้ำในระยะเวลา 40 นาที ที่สวยงาม ซึ่งที่นี่มีความเป็นส่วนตัวมากอันดับต้นๆในมัลดีฟส์ รีสอร์ทแห่งนี้ยอดเยี่ยมอย่างแท้จริงในทุกสิ่งที่ให้บริการต่อลูกค้าภายในรีสอร์ท เป็นรีสอร์ทที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดแห่งหนึ่งในมัลดีฟส์

แนวทางการปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของรีสอร์ท Soneva Jani

• ตัววิลล่าที่ Soneva Jani สร้างขึ้นโดยใช้ไม้และวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมออกแบบอย่างหรูหรากลมกลืนเข้ากับธรรมชาติ
• ภายในรีสอร์ทมี "sustainable resort boutique" แห่งแรกของโลก โดยที่ร้านคุณสามารถซื้อเสื้อผ้าและเครื่องประดับออร์แกนิก ที่ผลิตโดยนักออกแบบที่ได้รับการคัดเลือก 25 รายจากทั่วทุกมุมโลก
• คิดออกแบบโปรแกรม “waste to wealth” ของรีสอร์ท ที่ช่วย  recycle 90% of the solid waste.
• Soneva Jani มีสวนผลไม้ ผัก และสมุนไพรอันมากมาย ซึ่งอยู่ภายในรีสอร์ทของตนเอง และจัดหาผลิตผลออร์แกนิก โดยไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอน
• ที่นี่มีทะเลสาบน้ำจืดและพื้นที่ป่าชายเลนอันเป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การฟื้นฟูสิ่งมีชีวิตทางน้ำ 
• The marine biologists ที่รีสอร์ทเป็น eco-warriors ที่รับผิดชอบในการปกป้องชีวิตใต้ท้องทะเล โดยเฉพาะเต่า และพวกเขายังช่วยกันสร้าง coral nursery อีกด้วย
• แง่มุมที่ยั่งยืนที่สุดของ Soneva Jani คือเป็นรีสอร์ทที่ปราศจากคาร์บอน สิ่งหนึ่งที่คำนึงถึงเที่ยวบินของแขกด้วย

Anantara Kihavah

ที่นี่ตั้งอยู่ในเขต Baa Atoll ซึ่งเป็นเขตสงวนชีวมณฑลของ UNESCO เป็นรีสอร์ทที่คุ้มค่าแก่การพักผ่อนอย่างแท้จริง โดยมีชื่อเสียงจากแนวปะการังที่งดงาม ซึ่งรีสอร์ทแห่งนี้ให้บริการวิลล่าริมชายหาดและวิลล่ากลางน้ำจำนวน 80 หลัง และมีหอดูดาวที่ตั้งอยู่กลางน้ำเพียงแห่งเดียวในมัลดีฟส์ ยิ่งไปกว่านั้น รีสอร์ทมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะส่งเสริมกิจกรรมต่างๆเพื่อความยั่งยืน 
 

แนวทางการปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของรีสอร์ท Anantara Kihavah

• ที่นี่ไม่มีการตัดต้นไม้บนเกาะ เพื่อนำไปสร้าง Villa ภายในรีสอร์ท 
• อนันตรา คิฮาวา เป็นที่ตั้งของสวน Nala Orchid Garden ที่ไม่ซ้ำใคร โดยสวนแห่งนี้ ผู้เข้าพักสามารถเดินเล่นที่นี่ได้อย่างอิสระ หรือใช้บริการทัวร์พร้อมไกด์เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับพืชพันธุ์และดอกไม้
• ทางรีสอร์ทมีสวนออร์แกนิกเป็นของตัวเอง ผลผลิตที่ปลูกบนเกาะจะนำไปใช้ในร้านอาหารเพื่อเตรียมอาหารที่สดใหม่อย่างมีรสนิยม
• ที่นี่มีโรงบำบัดชีวมวลสำหรับการจัดการกับเศษอาหารในแต่ละวัน
• แขกที่อนันตราสามารถมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูปะการัง ซึ่งรวมถึงการปลูกปะการังและสามารถที่จะติดตามความคืบหน้าเมื่อเวลาผ่านไป 
• รีสอร์ทมีระบบพลังงานแสงอาทิตย์ที่ครอบคลุม ส่งผลให้ลดการใช้เครื่องปั่นไฟลดลงถึง 26%

Six Senses Laamu
 

ที่พักผ่อนบนเกาะส่วนตัวเพียงแห่งเดียวในเขต Laamu Atoll ซึ่งเป็นหนึ่งในรีสอร์ทที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดในมัลดีฟส์  ผู้เข้าพักที่ Six Senses ยังจะได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมทางทะเลมากมาย ตั้งแต่การดำน้ำตื้น การเล่นกระดานโต้คลื่น ไปจนถึงการดำน้ำลึกและกีฬาทางน้ำ

แนวทางการปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของรีสอร์ท Six Senses Laamu

• หนึ่งในโครงการริเริ่มหลักที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ Six Senses ได้แก่ การห้ามใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว การรีไซเคิลขยะมูลฝอย และสวนสมุนไพรและผักในสถานที่
• รีสอร์ทของที่นี่ เป็นผู้ปกป้องและดูแลเต่าทะเลกว่า 670 ตัว และ Manta Ray กว่า 130 ตัวที่อาศัยอยู่ในน่านน้ำโดยรอบนี้ รวมถึงการดูแลอนุรักษ์เต่าทะเลที่ขึ้นมาวางไข่ในทุกๆปีภายในรีสอร์ท
• Six Senses เชื่อมั่นในการบูรณาการของชุมชนและรับผิดชอบในการบริจาคระบบบำบัดน้ำ ให้กับเกาะชุมชนที่มีคนพื้นเมืองอาศัยอยู่ใกล้เคียง
• รีสอร์ตแห่งนี้เป็นหนึ่งในสามที่ผลิตช็อคโกแลตโฮมเมดเองซึ่งสามารถประหยัดค่าบรรจุภัณฑ์ ลดปริมาณการใช้คาร์บอน
• ที่รีสอร์ทมีโรงกรองน้ำที่สามารถช่วยลดการใช้ขวดน้ำที่ทำมาจากพลาสติกได้สูงถึง 6 ล้านขวดต่อปี
• ที่นี่เป็นที่ต้ังของสถาบัน MUI (Maldives Underwater Initiative) ที่ได้รับรางวัล ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การอนุรักษ์ทางทะเล ในนั้น จะมีทีมนักชีววิทยาทางทะเลของรีสอร์ททำงานร่วมกับองค์กรหลายแห่ง เช่น The Manta Trust, Olive Ridley Project และ Blue Marine Foundation และผู้คนท้องถิ่นหลาย Generation อีกมากมาย
• ที่รีสอร์ทยังได้ริเริ่ม #ProjectMaldivesSeagrass เพื่อปกป้องหญ้าทะเล ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศใต้น้ำซึ่งปัจจุบันนี้เป็นปัญหาใหญ่ที่ถูกมองข้าม 
• Six Senses เป็นผู้นำศูนย์การศึกษาทางทะเล ที่เปิดแห่งใหม่เพื่อให้ความรู้และทำการวิจัยต่างๆ โดยพวกเขาแสดงมาตรการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อความยั่งยืน และนี่คือรายละเอียดเพียงบางส่วนที่รีสอร์ทดำเนินกิจการเพื่อความยั่งยืน
  
   

Gili Lankanfushi 

จะทำให้วันหยุดพักผ่อนของเพื่อนๆกลายเป็นประสบการณ์อันแสนวิเศษที่น่าจดจำแห่งหนึ่งในมัลดีฟส์ โดยภายในรีสอร์ทที่มีความเป็น Sustainable Luxury ซึ่งที่นี่ขึ้นชื่อเรื่อง Overwater Villa ที่ตกแต่งได้อย่างมีรสนิยม และในความสวยงามนั้นได้ให้ความสำคัญกับการปกป้องสิ่งแวดล้อมอย่างไม่มีเงื่อนไข

แนวทางการปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของรีสอร์ท Gili Lankanfushi

• อาคารและวิลล่าบนเกาะส่วนตัวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สร้างขึ้นโดยใช้ไม้ธรรมชาติจากท้องถิ่น เช่น ไม้ไผ่ ไม้สัก และปาล์ม
• อุปกรณ์อาบน้ำที่ Gili Lankanfushi ใส่ในภาชนะดินเผารีฟิลได้ ประหยัดและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม
• โรงกรองน้ำทะเลของเกาะ มีทั้งน้ำนิ่งและน้ำอัดลม เสิร์ฟในขวดแก้ว
• อาหารที่รีสอร์ทมาจากแหล่งท้องถิ่นเป็นหลัก นอกจากนี้ เชฟส่วนใหญ่ใช้อาหารทะเลที่จับได้ และผักออร์แกนิกและสมุนไพรจากสวนในสถานที่
• กิจกรรมท่องเที่ยวแสนสนุกสำหรับแขกที่มาพักผ่อนคือการผจญภัยทำความสะอาดปะการัง ในระหว่างงาน คุณจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตในน้ำและวิธีปกป้องสิ่งแวดล้อม
• เมื่อเร็วๆ นี้ Gili Lankanfushi ร่วมมือกับ Earth Check เพื่อทำความเข้าใจผลกระทบโดยรวมของรีสอร์ทที่มีต่อสภาพแวดล้อมให้ดีขึ้น ซึ่งจะช่วยให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงไปสู่ความยั่งยืนอย่างสม่ำเสมอ

LUX* South Ari Atoll

LUX* South Ari Atoll เป็นหนึ่งในรีสอร์ทที่ดำเนินกิจการต่างๆอันเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการพูดถึงเป็นอย่างมาก ด้วยรีสอร์ทเป็นสถานที่พักผ่อนที่มีชื่อเสียงเป็นพิเศษในการชม Whale Shark และ Manta Ray ได้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังมี Lagoon ที่สวยงามและหาดทรายที่สวยงาม ซึ่งภายในรีสอร์ทยังมีการจัดงานปาร์ตี้ในทุกค่ำคืนบริเวณริมชายหาดที่นำโดยดีเจที่มีชื่อ การเข้าพักที่ LUX* South Ari Atoll ทีมงานเรารับประกันว่าเพื่อนๆจะได้รับการพักผ่อนที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานพร้อมรับประสบการณ์การผจญภัยที่ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่งในมัลดีฟส์ นอกจากนี้ รีสอร์ทยังได้รับรางวัล Green Global และเป็นผู้นำในการดำเนินกิจการแนวทางปฏิบัติที่ปฏิวัติวงการเพื่อช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อม

แนวทางการปฏิบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของรีสอร์ท Lux South Ari Atoll

• LUX* South Ari Atoll เป็นที่ตั้งของ floating solar systems at sea ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบด้วยแผงโซลาร์เซลล์ที่สามารถทนต่อคลื่น ลม และ น้ำเค็มได้ ซึ่งช่วยทดแทนพลังงานไฟฟ้าเดิมได้อย่างมาก 
• ศูนย์ชีววิทยาทางทะเล อันเป็นสถาบันที่ศึกษาและปกป้องประชากรของฉลามวาฬ โดยพวกเขาให้ความสำคัญ ลงทุนในการฟื้นฟูปะการังและให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมนี้ เป็นโปรแกรมสร้างสรรค์เชิงนิเวศอีกด้วย
• ที่ LUX* เป็นรีสอร์ทที่มีความคิดริเริ่มหลายอย่างในกลุ่มผู้นำ ได้แก่ บ้านปลาที่ใช้อ่างอาบน้ำเก่า ตลอดจนการใช้เศษแก้วเก่า และ เส้นใยที่ทำจากไม้ไผ่ สำหรับการผลิต ขวดและถ้วยไว้ใช้ภายในรีสอร์ท
• LUX* South Ari Atoll เป็นรีสอร์ทที่เป็นมิตรกับผู้ที่เป็นวีแกน และ เป็นผู้ริเริ่มแนวคิด การจัดงานแต่งงานแบบไร้ขยะให้กับลูกค้าที่เข้าพักอีกด้วย
• นอกจากนี้ สถานที่พักผ่อนที่รีสอร์ทยังมีพรรณพืชน้ำที่มีความหลากหลาย 
• ภายในรีสอร์ทได้ทำการนำวัสดุที่ทำจากพลาสติก เปลี่ยนไปใช้วัสดุที่ทำจากธรรมชาติและสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้