centara-maldives-all-resort-in-maldives

ทำความรู้จัก 4 รีสอร์ทเครือเซ็นทาราในมัลดีฟส์

23-07-2025

ทำความรู้จัก 4 รีสอร์ทเครือเซ็นทาราในมัลดีฟส์

บทนำ: จิตวิญญาณแห่งเซ็นทารา จากมรดกไทยสู่การเป็นแบรนด์ระดับโลก

ณ ใจกลางมหาสมุทรอินเดีย ที่ซึ่งหมู่เกาะมัลดีฟส์ทอประกายดั่งสร้อยไข่มุกบนผืนน้ำสีเทอร์ควอยซ์ แบรนด์โรงแรมสัญชาติไทยอย่าง "เซ็นทารา" ได้หยั่งรากและขยายกิ่งก้านสาขาอย่างน่าทึ่ง การปรากฏตัวของเซ็นทาราในดินแดนแห่งนี้มิใช่เป็นเพียงการขยายธุรกิจ หากแต่เป็นการนำเสนอเรื่องราว จิตวิญญาณ และปรัชญาที่สั่งสมมากว่าสี่ทศวรรษ เพื่อให้นักเดินทางจากทั่วโลกได้สัมผัสกับนิยามแห่งการพักผ่อนที่แตกต่างและลึกซึ้ง

 

กำเนิดและปรัชญา: รากฐานแห่งการบริการไทย

เรื่องราวของเซ็นทาราเริ่มต้นขึ้นในช่วงปลายทศวรรษ 1970 เมื่อกลุ่มเซ็นทรัลได้ริเริ่มโครงการที่จะสร้างศูนย์การค้า ศูนย์ประชุม และโรงแรมครบวงจรแห่งแรกของประเทศไทยบนที่ดินย่านจตุจักร กรุงเทพมหานคร โครงการดังกล่าวได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 1983 ในชื่อโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ จุดเริ่มต้นนี้ได้วางศิลาฤกษ์ให้กับปรัชญาที่กลายเป็นหัวใจของแบรนด์ นั่นคือการบริการที่อบอุ่นและเปี่ยมด้วยไมตรีจิตตามแบบฉบับมรดกครอบครัวไทย (Thai family heritage)

ปรัชญานี้ไม่ได้เป็นเพียงถ้อยคำทางการตลาด แต่เป็นหลักการชี้นำที่ถูกถักทอเข้าไปในทุกมิติของประสบการณ์ผู้เข้าพัก คุณค่าหลักอันได้แก่ "การบริการอันอบอุ่นอ่อนน้อม อาหารเลิศรส สปาที่มอบความผ่อนคลาย และการให้ความสำคัญกับครอบครัว" ได้ถูกส่งออกและปรับใช้ให้เข้ากับบริบททางวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมัลดีฟส์ การผสมผสานเสน่ห์แบบมัลดีเวียนเข้ากับการต้อนรับแบบไทย 1 ได้สร้างอัตลักษณ์ที่โดดเด่นและแตกต่างจากเครือโรงแรมระดับนานาชาติอื่นๆ การเน้นย้ำถึง "มรดกไทย" บ่งบอกถึงความอบอุ่นและความใส่ใจในรายละเอียดส่วนบุคคล ซึ่งสร้างความแตกต่างจากรูปแบบการบริการหรูหราที่อาจเป็นทางการหรือมีลักษณะเป็นธุรกรรมมากกว่า นี่คือการส่งออกวัฒนธรรม "ความเป็นไทย" ที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของมูลค่าที่แบรนด์มอบให้กับลูกค้า

 

สถาปัตยกรรมแห่งแบรนด์: การแบ่งส่วนตลาดอย่างชาญฉลาด

เซ็นทารามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่านักเดินทางแต่ละกลุ่มมีวิถีชีวิตและความต้องการที่แตกต่างกัน จึงได้สร้างสถาปัตยกรรมของแบรนด์ที่หลากหลายถึง 6 แบรนด์ย่อย เพื่อตอบสนองตลาดได้อย่างครอบคลุม สำหรับรีสอร์ทในมัลดีฟส์ แบรนด์ย่อยที่มีบทบาทสำคัญประกอบด้วย:

  • Centara Grand: นิยามของ "The Place to Be" ที่ซึ่งแขกผู้เข้าพักจะได้ดื่มด่ำกับประสบการณ์ที่แท้จริงในสถานที่อันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมความใส่ใจในรายละเอียดและการต้อนรับอันอบอุ่นที่สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายท้องถิ่น เหมาะสำหรับคู่รักและครอบครัว
  • Centara: มอบ "ความสุขใจและบริการที่อบอุ่นเป็นกันเองจากใจ" เป็นการผสมผสานระหว่างเอกลักษณ์อันมีสีสันของท้องถิ่นเข้ากับวิถีชีวิตที่ผ่อนคลายแบบไทยๆ
  • The Centara Collection: แบรนด์ที่ "คัดสรรมาเพื่อมอบประสบการณ์อันโดดเด่น เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์และตัวตน" ที่พักแต่ละแห่งในคอลเลคชั่นนี้จะมีบุคลิกเฉพาะตัวที่แตกต่างและกลมกลืนไปกับสภาพแวดล้อม

การจัดแบ่งแบรนด์ย่อยเช่นนี้อธิบายว่าเหตุใดรีสอร์ททั้งสี่แห่งในมัลดีฟส์จึงไม่ได้ใช้ชื่อแบรนด์เดียวกันทั้งหมด แต่ถูกวางตำแหน่งให้มีบทบาทและบุคลิกที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

 

วิสัยทัศน์สู่เวทีโลกและความยั่งยืน

ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งสู่การเป็นหนึ่งใน 100 กลุ่มโรงแรมชั้นนำของโลกภายในปี 2027 เซ็นทาราได้ขยายธุรกิจไปแล้วกว่า 80 แห่งใน 11 ประเทศ ซึ่งรีสอร์ทในมัลดีฟส์ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเติบโตที่สำคัญนี้ ควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจ เซ็นทารายังให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความยั่งยืนผ่านโครงการ "Centara EarthCare" โดยตั้งเป้าหมายให้โรงแรมและรีสอร์ทในเครือทั้งหมดได้รับการรับรองมาตรฐานความยั่งยืน 100% ภายในปี 2025

คำกล่าวของประธานเจ้าหน้าที่บริหารที่ว่าความยั่งยืนคือกุญแจสู่ "การสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน" เผยให้เห็นว่านี่ไม่ใช่เพียงนโยบายเพื่อสิ่งแวดล้อม แต่เป็นยุทธศาสตร์ทางธุรกิจที่สำคัญ ในจุดหมายปลายทางที่เปราะบางทางระบบนิเวศอย่างมัลดีฟส์ การมีพันธสัญญาด้านความยั่งยืนที่จับต้องได้และผ่านการรับรองจากองค์กรที่เป็นที่ยอมรับระดับโลก (GSTC-Recognized Standard) ถือเป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการดึงดูดนักเดินทางคุณภาพสูงที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม สิ่งนี้ไม่เพียงสอดคล้องกับค่านิยมของผู้บริโภคยุคใหม่ แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงในการดำเนินงานระยะยาวและเสริมสร้างชื่อเสียงของแบรนด์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

 

บทที่ 1: Machchafushi Island Resort & Spa, The Centara Collection จุดเริ่มต้นแห่งการผจญภัยและความสมบูรณ์แบบ

รีสอร์ทแห่งนี้ ซึ่งในอดีตเป็นที่รู้จักในนาม เซ็นทารา แกรนด์ ไอส์แลนด์ รีสอร์ท แอนด์ สปา มัลดีฟส์ ได้ถูกปรับภาพลักษณ์ใหม่ภายใต้ชื่อ Machchafushi Island Resort & Spa Maldives, The Centara Collection 3 ตั้งอยู่ ณ South Ari Atoll อันเลื่องชื่อ การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการวิเคราะห์เชิงลึกและการวางตำแหน่งทางการตลาดที่ชาญฉลาด

 

Machchafushi-Island-Resort-and-Spa-Maldives-1

 

อัตลักษณ์ที่ถูกคัดสรร: จาก "Grand" สู่ "Collection"

การย้ายรีสอร์ทจากแบรนด์ "Centara Grand" มาสู่ "The Centara Collection" เป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่มีนัยสำคัญ แบรนด์ "The Centara Collection" ถูกสร้างขึ้นเพื่อโรงแรมที่มี "เอกลักษณ์และตัวตน" โดดเด่นด้วย "บุคลิกของตัวเอง" สินทรัพย์ที่ล้ำค่าที่สุดของรีสอร์ทแห่งนี้คือแนวปะการังหน้าที่พัก (House Reef) ที่ได้รับรางวัล และซากเรืออับปางในประวัติศาสตร์ที่อยู่ไม่ไกล 3 ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ การปรับแบรนด์จึงเป็นการเปลี่ยนจุดขายจาก "ความหรูหราตามมาตรฐาน" (Grand) มาสู่ "เรื่องราวและประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร" (Collection) เป็นการยกระดับจุดแข็งที่มีอยู่ให้เด่นชัดยิ่งขึ้น และสื่อสารกับนักเดินทางว่าที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงรีสอร์ทหรูอีกแห่งหนึ่ง แต่เป็นจุดหมายปลายทางที่ถูกคัดสรรมาเพื่อมอบประสบการณ์พิเศษโดยเฉพาะ

 

"Ultimate All-Inclusive" นิยามแห่งความไร้กังวล

หัวใจสำคัญที่สร้างชื่อเสียงให้กับรีสอร์ทแห่งนี้คือแพ็คเกจ "Ultimate All-Inclusive" ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในแพ็คเกจที่ครอบคลุมและคุ้มค่าที่สุดในมัลดีฟส์ 4 แพ็คเกจนี้มอบความสะดวกสบายแบบไร้กังวลอย่างแท้จริง โดยครอบคลุม:

  • อาหารและเครื่องดื่ม: มื้ออาหาร ณ ห้องอาหาร 3 แห่งที่มีสไตล์แตกต่างกัน (บุฟเฟ่ต์นานาชาติ, อาหารไทย, และอาหารอิตาเลียน), เครื่องดื่มหลากหลายชนิด, บริการอาหารในห้องพักตลอด 24 ชั่วโมง, มินิบาร์ที่เติมให้ทุกวัน และแม้กระทั่งบุหรี่ 6
  • สิทธิประโยชน์พิเศษ: สิ่งที่ทำให้แพ็คเกจนี้โดดเด่นคือการมอบเครดิตสปาประจำวัน (เช่น 100 ดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งแขกสามารถเลือกใช้บริการสปา หรือนำไปแลกเป็นกิจกรรมดำน้ำลึกได้ นอกจากนี้ ยังรวมกิจกรรมทัศนศึกษา 1 รายการต่อการเข้าพัก (เช่น ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตก, ทริปดำน้ำตื้น) และกีฬาทางน้ำทั้งแบบไม่ใช้เครื่องยนต์และแบบใช้เครื่องยนต์บางรายการโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

 

สวรรค์ของนักผจญภัยและครอบครัว

ด้วยคุณสมบัติอันเป็นเอกลักษณ์ รีสอร์ทแห่งนี้จึงตอบโจทย์นักเดินทางสองกลุ่มหลักได้อย่างสมบูรณ์แบบ:

  • นักผจญภัยทางทะเล: แนวปะการังหน้าที่พักที่สมบูรณ์ช่วยให้สามารถดำน้ำตื้นชมความงามใต้ท้องทะเลได้อย่างง่ายดายจากหน้าหาด ขณะที่ซากเรืออับปางที่อยู่ใกล้เคียงก็เป็นแม่เหล็กดึงดูดนักดำน้ำลึกจากทั่วโลก 3 ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำสำหรับผู้ที่หลงใหลโลกใต้ทะเล
  • ครอบครัว: แตกต่างจากรีสอร์ทหรูหลายแห่งในมัลดีฟส์ ที่นี่ให้การต้อนรับครอบครัวอย่างเต็มรูปแบบ แม้กระทั่งในวิลล่ากลางน้ำ โดยมี "Deluxe Family Water Villas" ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะพร้อมเตียงสองชั้น, เครื่องเล่นเกม PlayStation และตัวล็อคนิรภัยสำหรับเด็ก 4 พร้อมด้วย Kids' Club "Camp Safari", E-Zone สำหรับวัยรุ่น และสระว่ายน้ำสำหรับเด็ก ทำให้มั่นใจได้ว่าสมาชิกทุกคนในครอบครัวจะมีกิจกรรมให้เพลิดเพลิน 9

การผสมผสานระหว่างศักยภาพในการผจญภัยระดับสูงและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับครอบครัวที่ครบครัน ทำให้กลุ่มเป้าหมายของ Machchafushi ชัดเจน นั่นคือครอบครัวที่มองหาทั้งการพักผ่อนและการผจญภัย และนักเดินทางที่ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ all-inclusive ที่คุ้มค่าและครอบคลุมทุกอย่าง

 

ที่พัก (Accommodation)

รีสอร์ทประกอบด้วยวิลล่าและห้องสวีทที่กว้างขวางจำนวน 112 หลัง 10 มีรูปแบบหลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน ตั้งแต่

Beach Suite (87 ตร.ม.) ไปจนถึง Deluxe Water Villa (86 ตร.ม.) 5 จุดเด่นคือ

Deluxe Family Water Villa (93 ตร.ม.) ที่ออกแบบมาเพื่อครอบครัวโดยเฉพาะ ภายในมีเตียงสองชั้นและเครื่องเล่นเกม PlayStation เพื่อความบันเทิงของเด็กๆ 4 สำหรับผู้ที่มองหาความหรูหราที่มากขึ้น สามารถเลือกพักใน

Ocean Water Villa (106 ตร.ม.) หรือ Luxury Beachfront Pool Villa ที่มีทั้งแบบหนึ่งและสองห้องนอน (159 ตร.ม.) พร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว

 

ห้องอาหารและบาร์ (Restaurant & Bar)

มอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่หลากหลายผ่านห้องอาหารหลัก 3 แห่ง ได้แก่ Reef ที่ให้บริการบุฟเฟ่ต์นานาชาติและเทปันยากิ

Suan Bua ที่เสิร์ฟอาหารไทยต้นตำรับ และ

Azzuri Mare ที่เชี่ยวชาญด้านอาหารอิตาเลียนและอาหารทะเล นอกจากนี้ยังมีบาร์ 2 แห่งคือ

Aqua Bar และ Coral Bar สำหรับเครื่องดื่มและของว่างตลอดวัน แขกที่เข้าพักในวิลล่าระดับสูงยังสามารถใช้บริการ

The Club ซึ่งเป็นเลานจ์และห้องอาหารสุดเอ็กซ์คลูซีฟได้อีกด้วย 

 

กิจกรรม (Activities)

ที่นี่คือสวรรค์ของคนรักทะเลอย่างแท้จริง ไฮไลท์สำคัญคือการดำน้ำตื้นที่แนวปะการังหน้าหาด (House Reef) ที่ได้รับรางวัล และการดำน้ำลึกสำรวจซากเรืออับปางที่จมอยู่ใกล้รีสอร์ท 3 ซึ่งอำนวยความสะดวกโดยศูนย์ดำน้ำ PADI 3 แพ็คเกจ Ultimate All-Inclusive ยังมอบกิจกรรมทัศนศึกษาให้เลือก เช่น ล่องเรือชมพระอาทิตย์ตก ทริปตกปลา หรือทัวร์ดำน้ำตื้นชมฉลามวาฬ 10 รวมถึงกีฬาทางน้ำทั้งแบบใช้เครื่องยนต์ (บานาน่าโบ๊ท, ทูป) และไม่ใช้เครื่องยนต์อีกมากมาย 

 

สปา (Spa)

SPA Cenvaree เป็นโอเอซิสแห่งการพักผ่อนที่มาพร้อมกับสระวารีบำบัด (Hydrotherapy) และห้องอบไอน้ำ  จุดเด่นที่ไม่เหมือนใครคือเครดิตสปามูลค่า 100 ดอลลาร์สหรัฐต่อวันสำหรับผู้ใหญ่ทุกคนที่มากับแพ็คเกจ all-inclusive ซึ่งสามารถนำไปใช้กับทรีตเมนต์ต่างๆ หรือแลกเปลี่ยนเป็นกิจกรรมดำน้ำลึกได้ นับเป็นการเพิ่มทางเลือกและความคุ้มค่าให้กับผู้เข้าพัก 

 

บทที่ 2: Centara Ras Fushi Resort & Spa โอเอซิสแห่งความโรแมนติกสำหรับผู้ใหญ่โดยเฉพาะ

ในขณะที่รีสอร์ทแห่งแรกเน้นความหลากหลาย Centara Ras Fushi Resort & Spa กลับเลือกเส้นทางที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง โดยรังสรรค์พื้นที่ทั้งหมดให้เป็นสวรรค์สำหรับผู้ใหญ่ที่แสวงหาความโรแมนติก ความเงียบสงบ และความเป็นส่วนตัว

 

centara_ras_fushi_maldives_package_all_inclusive

 

บรรยากาศที่รังสรรค์เพื่อผู้ใหญ่: ความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัว

รีสอร์ทแห่งนี้ถูกวางตำแหน่งให้เป็น "adults-oriented" หรือ "รีสอร์ทที่เน้นผู้ใหญ่เป็นหลัก" การใช้คำนี้มีความละเอียดอ่อนและสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนโยบายของรีสอร์ทคือการต้อนรับแขกที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ซึ่งแตกต่างจากนโยบาย "adults-only" ที่จำกัดเฉพาะผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไปเท่านั้น การวางตำแหน่งที่ชาญฉลาดนี้ช่วยให้รีสอร์ทสามารถขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มครอบครัวที่มีบุตรหลานวัยรุ่น ซึ่งต้องการบรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นผู้ใหญ่มากกว่ารีสอร์ทสำหรับครอบครัวทั่วไป ขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาสัญญาที่จะมอบสภาพแวดล้อมที่เป็นส่วนตัวและปราศจากเสียงของเด็กเล็กให้กับกลุ่มลูกค้าหลักอย่างคู่รักและคู่ฮันนีมูนได้

ด้วยทำเลที่ตั้งใน North Malé Atoll ซึ่งใช้เวลาเดินทางด้วยเรือเร็วจากสนามบินเพียง 15-20 นาที ทำให้ที่นี่มีความสะดวกสบายสูง เหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายมาพักผ่อนในช่วงเวลาสั้นๆ

 

วิลล่าแห่งความโรแมนติก: การออกแบบเพื่อสองเรา

ปรัชญาการออกแบบของที่นี่สะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับคู่รักอย่างชัดเจน ห้องพักทุกประเภทรองรับผู้เข้าพักได้สูงสุดเพียง 2 ท่านเท่านั้น เพื่อสร้างบรรยากาศที่เป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง จุดเด่นของวิลล่าประกอบด้วย:

  • วิลล่ากลางน้ำ (Overwater Villa): มอบประสบการณ์การพักผ่อนเหนือผืนน้ำสีคราม พร้อมบันไดส่วนตัวที่ทอดลงสู่ลากูน
  • วิลล่าพร้อมอ่างสปาส่วนตัว (Villa with Swirl Pool): วิลล่ากลางน้ำที่มาพร้อมอ่างสปากลางแจ้งส่วนตัว เป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อนและดื่มด่ำกับทิวทัศน์มหาสมุทรอย่างไร้ที่ติ โดยเฉพาะวิลล่าฝั่งพระอาทิตย์ตกซึ่งเป็นที่ต้องการสูงสำหรับช่วงเวลาสุดโรแมนติก
  • บรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลอง: ห้องอาหารและบาร์หลายแห่งถูกออกแบบมาเพื่อสร้างบรรยากาศพิเศษสำหรับคู่รัก ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารค่ำส่วนตัวบนชายหาด ดินเนอร์ใต้แสงเทียน หรือจิบค็อกเทลชมพระอาทิตย์ตกที่ Viu Bar ซึ่งมีเปลตาข่ายเหนือน้ำอันเป็นเอกลักษณ์ 

 

ประสบการณ์ที่คัดสรรสำหรับคู่รัก

ทุกองค์ประกอบของรีสอร์ทถูกคัดสรรมาเพื่อเติมเต็มประสบการณ์โรแมนติก:

  • ศาสตร์แห่งรสชาติ: ห้องอาหารและบาร์ 6 แห่ง นำเสนอประสบการณ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่อาหารอิตาเลียนต้นตำรับ (La Brezza), อาหารไทยรสเลิศ (Suan Bua) ไปจนถึงห้องอาหารธีมเต็นท์เบดูอินที่เสิร์ฟอาหารอาหรับปิ้งย่าง (Al Khaimah) สร้างสรรค์บรรยากาศดินเนอร์ที่น่าจดจำและเป็นส่วนตัว 
  • ศาสตร์แห่งการผ่อนคลาย: SPA Cenvaree ที่ตั้งอยู่ริมทะเล มีบริการทรีตเมนต์สำหรับคู่รัก วารีบำบัด และคลาสโยคะ เพื่อสร้างเส้นทางแห่งสุขภาพและความผ่อนคลายร่วมกัน 
  • ศาสตร์แห่งการเฉลิมฉลอง: รีสอร์ทมอบสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับคู่ฮันนีมูนและคู่รักที่มาฉลองวันครบรอบ เช่น สปาร์คกลิ้งไวน์ ช็อกโกแลต และเค้ก เพื่อทำให้ช่วงเวลาพิเศษน่าประทับใจยิ่งขึ้น 

นอกจากนี้ การที่รีสอร์ทอยู่ใกล้กับแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงอย่าง Giraavaru Cave และ Lion's Head ยังเป็นกิจกรรมสำหรับคู่รักนักผจญภัยได้อีกด้วย 

 

ที่พัก (Accommodation)

รีสอร์ทมีวิลล่าจำนวน 140 หลังที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใหญ่โดยเฉพาะ โดยจำกัดผู้เข้าพักสูงสุดเพียง 2 ท่านต่อหลังเพื่อความเป็นส่วนตัวสูงสุด ตัวเลือกที่พักมีทั้ง Oceanfront Beach Villa (45 ตร.ม.) และ Overwater Villa (42 ตร.ม.) 11 วิลล่าหลายประเภทมาพร้อมอ่างน้ำวน (Swirl Pool) ส่วนตัวกลางแจ้ง ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับคู่รักที่ต้องการความโรแมนติก โดยเฉพาะ

Sunset Overwater Villa with Swirl Pool ที่เป็นที่นิยมอย่างสูง 

 

ห้องอาหารและบาร์ (Restaurant & Bar)

สัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารที่หลากหลายจาก 6 ห้องอาหารและบาร์ 

Oceans ให้บริการบุฟเฟ่ต์นานาชาติ 

La Brezza เสิร์ฟอาหารอิตาเลียนต้นตำรับริมสระว่ายน้ำ 

Suan Bua นำเสนออาหารไทยรสเลิศ

Al Khaimah สร้างบรรยากาศที่ไม่เหมือนใครด้วยเต็นท์แบบเบดูอินและอาหารอาหรับปิ้งย่าง สำหรับเครื่องดื่ม

Viu Bar คือบาร์กลางน้ำที่เป็นไฮไลท์ มีเปลตาข่ายสำหรับนอนเล่นชมพระอาทิตย์ตก นอกจากนี้ยังมี Waves Pool Bar และ Giraavaru Lobby Bar ให้บริการ 

 

กิจกรรม (Activities)

ไฮไลท์สำหรับคู่รักนักผจญภัยคือที่ตั้งของรีสอร์ทซึ่งอยู่ใกล้กับแหล่งดำน้ำที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น Giraavaru Cave, Kuda Haa, Lion's Head และ Shark Point โดยใช้เวลาเดินทางด้วยเรือเพียงไม่กี่นาที  ศูนย์ดำน้ำ PADI ที่ได้รับการรับรองพร้อมให้บริการสำหรับนักดำน้ำทุกระดับ  นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมทางน้ำอื่นๆ เช่น วินด์เซิร์ฟ และพายเรือแพดเดิลโบ๊ท 

 

สปา (Spa)

SPA Cenvaree ตั้งอยู่ริมทะเล มอบบรรยากาศที่ผ่อนคลายอย่างแท้จริง สปาแห่งนี้โดดเด่นด้วยบริการทรีตเมนต์ที่ออกแบบมาสำหรับคู่รักโดยเฉพาะ รวมถึงคลาสโยคะ และวารีบำบัด (Hydrotherapy) เพื่อการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจร่วมกัน 

 

บทที่ 3: Centara Mirage Lagoon Maldives อาณาจักรแห่งจินตนาการสำหรับครอบครัว

บทนี้จะเจาะลึกถึง Centara Mirage Lagoon สวรรค์สำหรับครอบครัวที่สร้างขึ้นจากจินตนาการ พร้อมวิเคราะห์สภาพแวดล้อมตามธีมและสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นหนึ่งเดียวในมัลดีฟส์

 

Centara_Mirage_Lagoon-Maldives_Arial_2

 

ปรัชญาแห่ง "Mirage" การส่งออกความสำเร็จ

Centara Mirage Lagoon Maldives ถูกวางตำแหน่งให้เป็น "รีสอร์ทสำหรับเด็กและครอบครัวชั้นนำใน North Male Atoll" โดยนำเสนอแนวคิด "สวรรค์แห่งโลกใต้ทะเล" (underwater world-themed paradise)  ซึ่งเป็น DNA หลักของแบรนด์ "Mirage"

แบรนด์ Mirage ซึ่งพิสูจน์ความสำเร็จมาแล้วจากรีสอร์ทธีม "Lost World" ที่พัทยา และในดูไบ คือสูตรสำเร็จของเซ็นทาราในการสร้าง "ศูนย์รวมความบันเทิงแบบครบวงจร" (self-contained entertainment destination) พวกเขาไม่ได้แค่สร้างโรงแรม แต่กำลังสร้าง "สถานที่ท่องเที่ยว" (attraction) การนำโมเดลนี้มาสู่มัลดีฟส์เป็นการสร้างรีสอร์ทที่ไม่ได้พึ่งพากิจกรรมแบบดั้งเดิมของมัลดีฟส์ (เช่น การพักผ่อนอย่างเงียบสงบ) แต่เน้นไปที่ความสนุกสนานแบบมีธีมสำหรับครอบครัวโดยเฉพาะ ตัวรีสอร์ทเองจึงกลายเป็นกิจกรรมหลักของการมาเยือน

 

สวนน้ำและแม่น้ำแห่งเดียวในมัลดีฟส์

แม่เหล็กที่ดึงดูดครอบครัวจากทั่วโลกมายังรีสอร์ทแห่งนี้คือสิ่งอำนวยความสะดวกที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นจุดขายที่แข็งแกร่งที่สุด

  • สวนน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ (Expansive Water Complex): สวนน้ำที่น่าประทับใจ ประกอบด้วยสระว่ายน้ำหลายสระ, สไลเดอร์น้ำสุดตื่นเต้น และสนามเด็กเล่นในน้ำแบบอินเทอร์แอคทีฟ
  • แม่น้ำจำลอง (Lazy River): ที่นี่คือรีสอร์ทแห่งเดียวในมัลดีฟส์ที่มีแม่น้ำจำลอง (Lazy River) ให้แขกได้ล่องห่วงยางไปตามสายน้ำที่คดเคี้ยวท่ามกลางสวนเมืองร้อน มอบประสบการณ์การพักผ่อนแบบครอบครัวที่ไม่เหมือนใคร

สิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงส่วนเสริม แต่เป็นแกนกลางของประสบการณ์ผู้เข้าพัก และเป็นเหตุผลหลักที่ครอบครัวจะเลือกมาที่นี่แทนที่จะเป็นรีสอร์ทอื่นในมัลดีฟส์

 

ทุกตารางนิ้วเพื่อครอบครัว

การออกแบบทุกส่วนของรีสอร์ทล้วนคำนึงถึงครอบครัวเป็นศูนย์กลาง

  • ห้องพัก: ห้องพักถูกออกแบบมาเพื่อครอบครัวโดยเฉพาะ มีตัวเลือกห้องพักพร้อมเตียงสองชั้น และห้องพักแบบเชื่อมต่อกัน (interconnecting rooms) เพื่อความสะดวกสบายและพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง
  • สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับเด็ก: นอกจาก Kids' Club ที่มีชีวิตชีวาแล้ว จุดเด่นที่สร้างสรรค์ที่สุดคือ "Candy Spa" ซึ่งเป็นสปาสำหรับเด็กแห่งแรกในมัลดีฟส์ ที่นำเสนอทรีตเมนต์ที่สามารถรับประทานได้ บริการทำเล็บมือเล็บเท้าสำหรับคุณหนูๆ ซึ่งเป็นแนวคิดที่แปลกใหม่และน่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง 
  • ห้องอาหาร: มีตัวเลือกห้องอาหารที่หลากหลายเพื่อตอบสนองทุกรสนิยม โดยเฉพาะเด็กๆ เช่น บุฟเฟ่ต์นานาชาติ (The Sailhouse), อาหารอิตาเลียน (Acqua), อาหารไทย (Suan Bua) และบาร์ไอศกรีม (Scoops)

ที่พัก (Accommodation)

รีสอร์ทมีวิลล่าริมหาดและกลางน้ำรวม 145 หลัง 2ซึ่งออกแบบมาเพื่อครอบครัวโดยเฉพาะ มีขนาดตั้งแต่ 39 ตร.ม. ไปจนถึง 196 ตร.ม. ห้องพักมีหลากหลายรูปแบบ เช่น

Mirage Beachfront Room และ Overwater Villa ซึ่งหลายประเภทมาพร้อมกับจากุซซี่ สระว่ายน้ำส่วนตัว หรืออ่างอาบน้ำกลางแจ้ง 21 จุดเด่นคือห้องพักส่วนใหญ่มีเตียงสองชั้นสำหรับเด็ก และมีห้องพักแบบเชื่อมต่อกัน (Interconnecting Rooms) รวมถึง

Four Bedroom Beach House สำหรับครอบครัวขนาดใหญ่ 

 

ห้องอาหารและบาร์ (Restaurant & Bar)

ตอบโจทย์ทุกสมาชิกในครอบครัวด้วยห้องอาหาร 3 แห่ง ได้แก่ The Sailhouse (บุฟเฟ่ต์นานาชาติ), Acqua (อาหารอิตาเลียน) และ Suan Bua (อาหารไทย) 2นอกจากนี้ยังมี

Dolphin Bar สำหรับเครื่องดื่มและของว่าง, Rum Bar ที่มีชีวิตชีวา และ Scoops บาร์ไอศกรีมที่ถูกใจเด็กๆ อย่างแน่นอน 

 

กิจกรรม (Activities)

ไฮไลท์ที่โดดเด่นที่สุดและเป็นหนึ่งเดียวในมัลดีฟส์คือ สวนน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ ที่มาพร้อมสไลเดอร์สุดตื่นเต้น สนามเด็กเล่นในน้ำ และที่สำคัญคือ แม่น้ำจำลอง (Lazy River) แห่งเดียวในประเทศ ที่ให้ทุกคนในครอบครัวได้ล่องห่วงยางพักผ่อน  นอกจากนี้ยังมีศูนย์ดำน้ำ PADI และกิจกรรมทางน้ำครบวงจร ตั้งแต่เรือคายัคไปจนถึงเจ็ตสกี พร้อมด้วย

Kids' Club และ Games Room ที่เต็มไปด้วยกิจกรรมสนุกสนาน

 

สปา (Spa)

SPA Cenvaree ที่ได้รับรางวัลมอบการพักผ่อนสำหรับผู้ใหญ่ แต่ความพิเศษสุดอยู่ที่

Candy Spa สปาสำหรับเด็กแห่งแรกในมัลดีฟส์ ที่ซึ่งคุณหนูๆ จะได้เพลิดเพลินไปกับทรีตเมนต์ที่สามารถรับประทานได้ (Edible Treatments) การทำเล็บมือเล็บเท้า และแม้กระทั่งการจัดปาร์ตี้สปา เป็นนวัตกรรมที่สร้างสรรค์มาเพื่อความสุขของครอบครัวอย่างแท้จริง

 

บทที่ 4: Centara Grand Lagoon Maldives นิยามใหม่แห่งความหรูหราอันเงียบสงบ

หาก Mirage คือพลังและความมีชีวิตชีวา Centara Grand Lagoon ก็คือความสง่างามและความเงียบสงบ รีสอร์ทแห่งนี้คือภาพสะท้อนที่สมบูรณ์แบบของแบรนด์ "Centara Grand" ที่มอบความหรูหราในรูปแบบที่ผ่อนคลายและเป็นส่วนตัว

 

Centara_Grand_Lagoon_Maldives_Arial_2

 

สุนทรียศาสตร์แห่งความสงบ

บรรยากาศของรีสอร์ทคือการผสมผสานระหว่าง "ความหรูหราแบบเรียบง่าย" เข้ากับ "การต้อนรับที่ได้รับแรงบันดาลใจจากไทย" และ "ความสงบอันหรูหรา" (sophisticated tranquillity) ที่นี่ถูกรังสรรค์ขึ้นเพื่อ "นักเดินทางผู้มีรสนิยม" (discerning travelers)

การออกแบบเน้นการใช้วัสดุจากธรรมชาติ โทนสีเอิร์ธโทนที่อบอุ่น และพื้นที่เปิดโล่งที่กลมกลืนกับภูมิทัศน์อันงดงาม ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนกับการออกแบบที่สดใสและมีธีมของ Mirage ที่อยู่ใกล้กัน กลุ่มเป้าหมายของที่นี่จึงชัดเจนว่าเป็นคู่รัก ครอบครัวใหญ่หลายรุ่น และนักเดินทางสายหรูที่ต้องการการพักผ่อนที่เงียบสงบและมีระดับ แต่ยังคงชื่นชมการมีทางเลือกที่จะเข้าถึงกิจกรรมที่คึกคักได้หากต้องการ

 

วิลล่าและเรสซิเดนซ์: พื้นที่แห่งความหรูหรา

รีสอร์ทประกอบด้วยวิลล่าและเรสซิเดนซ์กลางน้ำและริมหาดที่กว้างขวางจำนวน 142 หลัง มีขนาดตั้งแต่ 78 ถึง 450 ตารางเมตร ความพิเศษของที่พักคือวิลล่าหรือเรสซิเดนซ์ทุกหลังจะมีสระว่ายน้ำส่วนตัวหรืออ่างจากุซซี่ เรสซิเดนซ์ขนาดใหญ่ เช่น Three-Bedroom Sunset Overwater Pool Residence จะมีห้องนอนหลายห้องและห้องครัวพร้อมอุปกรณ์ครบครัน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวใหญ่หลายรุ่นหรือการเข้าพักระยะยาว

ประสบการณ์ระดับ "Grand" The Club และ Sunset Social

สิ่งที่ยกระดับประสบการณ์ของรีสอร์ทให้สมกับความเป็น "Grand" คือสิ่งอำนวยความสะดวกสุดพิเศษ

  • The Club: ห้องอาหารและเลานจ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับแขกที่พักในห้องคลับโดยเฉพาะ นำเสนออาหารระดับสูง, raw bar, และทาปาสคู่กับไวน์ที่คัดสรรมาอย่างดี การมี The Club เปรียบเสมือนการสร้าง "รีสอร์ทซ้อนรีสอร์ท" เพื่อมอบความเป็นส่วนตัวและบริการระดับสูงสุดให้แก่แขกผู้มีรสนิยม
  • Sunset Social: แชมเปญบาร์กลางน้ำสุดหรู เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการดื่มด่ำกับเครื่องดื่มยามเย็นและชมทิวทัศน์พระอาทิตย์ตกอันงดงาม
  • ห้องอาหาร: ตัวเลือกห้องอาหารที่คัดสรรมาอย่างดี รวมถึงห้องอาหารเมดิเตอร์เรเนียนสมัยใหม่ที่เน้นอาหารทะเล (Bluefin) และห้องอาหารนานาชาติแบบปิ้งย่าง (The Gallery)

สำหรับแขกของ Centara Grand Lagoon แนวคิด The Atollia ถือเป็นกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม พวกเขาสามารถเพลิดเพลินกับความเงียบสงบ ความเป็นส่วนตัว และความหรูหราของรีสอร์ทตนเองได้อย่างเต็มที่ แต่หากเดินทางมาพร้อมกับเด็กๆ หรือวัยรุ่นที่ต้องการความตื่นเต้น สวนน้ำของ Mirage ก็อยู่ห่างออกไปเพียงไม่ไกล สิ่งนี้ช่วยแก้ปัญหาคลาสสิกของครอบครัวสายหรูที่มักจะต้องเลือกระหว่างรีสอร์ทที่หรูหราสำหรับผู้ใหญ่หรือรีสอร์ทที่สนุกสนานสำหรับเด็ก Centara Grand Lagoon มอบ "สิ่งที่ดีที่สุดของทั้งสองโลก" ผ่านการเชื่อมต่อเชิงกลยุทธ์กับ Mirage นั่นเอง

 

ที่พัก (Accommodation)

ประกอบด้วยวิลล่าและเรสซิเดนซ์สุดหรูจำนวน 142 หลัง มีขนาดกว้างขวางตั้งแต่ 78 ตร.ม. ไปจนถึง 450 ตร.ม. วิลล่าทุกหลังไม่ว่าจะตั้งอยู่บนหาดทรายหรือกลางน้ำ จะมาพร้อมกับสระว่ายน้ำส่วนตัวหรืออ่างจากุซซี่ รูปแบบห้องพักมีตั้งแต่

One-Bedroom Overwater Villa with Jacuzzi (78 ตร.ม.) ไปจนถึงเรสซิเดนซ์ขนาดใหญ่อย่าง Three-Bedroom Sunset Overwater Pool Residence (290 ตร.ม.) ซึ่งมีหลายห้องนอนและห้องครัวพร้อมอุปกรณ์ครบครัน เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่ที่เดินทางหลายรุ่น 

 

ห้องอาหารและบาร์ (Restaurant & Bar)

มีห้องอาหารและบาร์รวม 5 แห่งที่เปี่ยมด้วยรสนิยม 

The Gallery ให้บริการอาหารนานาชาติและเอเชีย 

Bluefin เน้นอาหารทะเลและอาหารเมดิเตอร์เรเนียนสมัยใหม่ ไฮไลท์คือ

Sunset Social แชมเปญบาร์กลางน้ำสุดหรูสำหรับชมพระอาทิตย์ตก และ

The Club เลานจ์และห้องอาหารสุดเอ็กซ์คลูซีฟสำหรับแขกที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและบริการระดับพรีเมียม ซึ่งให้บริการตั้งแต่ raw bar ไปจนถึงทาปาสคู่กับไวน์ชั้นเลิศ 

 

กิจกรรม (Activities)

นอกเหนือจากการพักผ่อนในวิลล่าส่วนตัว ที่นี่ยังมีสระว่ายน้ำ 2 สระ ฟิตเนสเซ็นเตอร์ และพาวิลเลียนสำหรับโยคะ ศูนย์กีฬาทางน้ำและศูนย์ดำน้ำ PADI มีกิจกรรมให้เลือกมากมาย เช่น วินด์เซิร์ฟ พาราเซลลิ่ง และการดำน้ำสำรวจปะการัง แต่กิจกรรมที่พิเศษที่สุดคือ สิทธิ์ในการเข้าใช้สิ่งอำนวยความสะดวกของ Centara Mirage Lagoon ที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้นักเดินทางสามารถเพลิดเพลินกับความสงบของ Grand Lagoon และในขณะเดียวกันก็สามารถพาครอบครัวไปสนุกกับสวนน้ำของ Mirage ได้ เป็นการมอบประสบการณ์ "สองรีสอร์ทในหนึ่งเดียว"

 

สปา (Spa)

SPA Cenvaree Retreat คือสถานที่พักผ่อนอันเงียบสงบที่ออกแบบมาเพื่อการฟื้นฟูร่างกายและจิตใจอย่างล้ำลึก สปาแห่งนี้นำเสนอการเดินทางสู่สุขภาวะที่ผสมผสานศาสตร์สมัยใหม่เข้ากับการบำบัดแบบไทยดั้งเดิม แขกสามารถดื่มด่ำกับทรีตเมนต์เพื่อความผ่อนคลาย รวมถึงแพ็คเกจสำหรับคู่รัก เพื่อสร้างความทรงจำอันน่าประทับใจท่ามกลางบรรยากาศอันหรูหราและเป็นส่วนตัว

 

การวางตำแหน่งของเซ็นทาราในมัลดีฟส์

การวิเคราะห์รีสอร์ททั้งสี่แห่งของเซ็นทาราในมัลดีฟส์เผยให้เห็นภาพที่ชัดเจนว่านี่ไม่ใช่เพียงการขยายธุรกิจแบบสุ่ม แต่เป็นผลจากการวางแผนเชิงกลยุทธ์ที่ลึกซึ้งและแยบยล เพื่อสร้างกลุ่มผลิตภัณฑ์ (Portfolio) ที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดการท่องเที่ยวได้อย่างครอบคลุมทุกมิติ

กลุ่มลูกค้าที่วางไว้อย่างมีเป้าหมาย

รีสอร์ททั้งสี่แห่งของเซ็นทาราในมัลดีฟส์ถูกออกแบบมาเพื่อนักเดินทางในทุกกลุ่มอย่างเป็นระบบ:

  • Machchafushi: เป็นดั่งสมอเรือที่แข็งแกร่งและเปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ สำหรับนักผจญภัยและผู้ที่มองหาความคุ้มค่าจากแพ็คเกจ All-Inclusive ที่สมบูรณ์แบบ
  • Ras Fushi: เจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) อย่างชัดเจน สำหรับคู่รักและคู่ฮันนีมูนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบาย
  • Mirage Lagoon: เป็นศูนย์กลางความบันเทิงสำหรับครอบครัว ที่มอบพลังและความสนุกสนานผ่านสิ่งอำนวยความสะดวกที่ไม่เหมือนใคร
  • Grand Lagoon: คือจุดสูงสุดของความหรูหราที่เงียบสงบและยืดหยุ่น สำหรับนักเดินทางผู้มีรสนิยมและครอบครัวใหญ่หลายรุ่น

กลยุทธ์การแบ่งส่วนตลาดที่ซับซ้อนนี้ช่วยลดการแข่งขันกันเองภายในแบรนด์และขยายการครอบคลุมตลาดให้กว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และไม่ว่ารีสอร์ทแต่ละแห่งจะนำเสนอประสบการณ์ที่แตกต่างกันเพียงใด แต่ทุกแห่งยังคงถูกถักทอด้วยเส้นด้ายแห่งคุณค่าหลักของเซ็นทารา นั่นคือมรดกความเป็นไทย การให้ความสำคัญกับครอบครัว และพันธสัญญาต่อความยั่งยืน ซึ่งสร้างให้เกิดคำมั่นสัญญาของแบรนด์ที่สอดคล้องและแข็งแกร่ง

 

ตารางเปรียบเทียบรีสอร์ทในเครือเซ็นทารามัลดีฟส์

เพื่อให้เห็นภาพรวมเชิงกลยุทธ์ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ตารางด้านล่างนี้ได้สรุปและเปรียบเทียบมิติที่สำคัญของรีสอร์ททั้งสี่แห่ง ซึ่งช่วยให้นักเดินทางสามารถตัดสินใจเลือกที่พักที่สอดคล้องกับความต้องการของตนเองได้อย่างรวดเร็ว และยังตอกย้ำถึงความสำเร็จของเซ็นทาราในการสร้างพอร์ตโฟลิโอที่สมดุลและมีเป้าหมาย

 

คุณลักษณะMachchafushi Island Resort & Spa, The Centara CollectionCentara Ras Fushi Resort & SpaCentara Mirage Lagoon MaldivesCentara Grand Lagoon Maldives
เสาหลักของแบรนด์The Centara CollectionCentaraCentara (ธีม Mirage)Centara Grand
กลุ่มเป้าหมายหลักครอบครัว, นักดำน้ำ, ผู้แสวงหา All-Inclusiveคู่รัก, คู่ฮันนีมูน (อายุ 12 ปีขึ้นไป)ครอบครัวที่มีเด็กนักเดินทางสายหรู, คู่รัก, ครอบครัวหลายรุ่น
บรรยากาศ/สไตล์คลาสสิก, ผจญภัย, สมบูรณ์แบบเป็นส่วนตัว, โรแมนติก, เงียบสงบสนุกสนาน, มีชีวิตชีวา, มีธีมสง่างาม, เงียบสงบ, หรูหรา
จุดขายที่แตกต่างจุดดำน้ำซากเรือจม, Ultimate All-Inclusive, แนวปะการังหน้าหาดเน้นผู้ใหญ่ (12+), สะดวกสบาย, เป็นกันเองสวนน้ำขนาดใหญ่, Lazy River, Candy Spaความหรูหราเรียบง่าย, The Club, การเข้าถึงสองรีสอร์ท
ที่ตั้ง/การเดินทางSouth Ari Atoll / เครื่องบินน้ำ (Seaplane)North Malé Atoll / เรือเร็ว (Speedboat)North Malé Atoll / เรือเร็ว (Speedboat)North Malé Atoll / เรือเร็ว (Speedboat)

 

 

 

*จากตารางเห็นได้ว่าแต่ละรีสอร์ทมีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน เราผู้เดินทางจะต้องเลือกรีสอร์ทที่ตรงตาม Lifestyle

 

 

 

CentaraMaldives
Centara
CentaraRasFushi
machchafushi
CentaraGrand
เซ็นทารามัลดีฟส์
Maldives
MaldivesResorts
มัลดีฟส์
เที่ยวมัลดีฟส์
CentaraGrandIslandMaldives
CentaraMirageLagoon
CentaraGrandLagoon

More from MALDIVES101

submarine-maldives-luxury-expeirence
DEEPFLIGHT ADVENTURES IN MALDIVES
ประสบการณ์สุด Exclusive ในประเทศมัลดีฟส์ที่มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์ที่เดียวในโลก โดยประสบการณ์ Luxury นี้จะอยู่ที่รีสอร์ท Four Season Landaa Giraavaru แห่งนี้ โดยเรือดำน้ำนี้มีชื่อว่า DeepFlight Super Falcon 3S ซึ่งเป็นเรือดำน้ำที่มีความทันสมัยและใช้เทคโนโลยีที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งมีชีวิตใต้น้ำเป็นอย่างมาก 
Read more
When-is-a-good-time-to-go-to-the-Maldives
มัลดีฟส์ไปช่วงไหนดี?
แนะนำข้อมูลการที่ช่วงวางแผนการเดินทางเกี่ยวกับช่วงเวลา ความเหมาะสมและสภาพภูมิอากาศในแต่ละช่วงของประเทศมัลดีฟส์เพื่อเป็นประโยชน์ต่อนักเดินทาง
Read more
maldives-sea
ทะเลมัลดีฟทำไมถึงสวยงามติดอันดับโลก
มัลดีฟส์ได้รับการขนานนามว่าเป็นดินแดนแห่งน้ำทะเลสีเทอควอยซ์ที่สวยงามที่สุดในโลก แต่คุณเคยสงสัยไหมว่าสีฟ้าสดใสนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และทำไมน้ำทะเลของมัลดีฟส์ถึงมีความงดงามไม่เหมือนทะเลที่อื่น ๆ บทความนี้จะพาคุณไปค้นหาคำตอบของความลับในมหาสมุทรอันลึกลับนี้
Read more